พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

ประวัติความเป็นมาของพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย เกิดจากแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์กลุ่มหนึ่งนำโดย อาจารย์ดวงแก้วพิทยากร ศิลป์ ที่สนใจการสร้างหุ่นขี้ผึ้ง และศึกษาค้นคว้าทดลองเป็นเวลานานกว่า 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ สามารถสร้างหุ่น ขี้ผึ้งยุคใหม่จากไฟเบอร์กลาสที่มีความคงทน ประณีต งดงาม เหมือนคนจริงที่สุด จนคณะผู้ร่วมงานเห็นสมควรที่ จะสนับสนุนให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติและศิลปินไทย จึงเริ่มโครงการก่อตั้งพิพิธ ภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ไทยในปี พ.ศ. 2525 สำหรับเป็นสถานที่สร้างและจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส เพื่อการ อนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีไทย อันจะเป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชน โดยปัจจุบันมีหุ่นไฟเบอร์กลาสทั้งหมด 120 รูปอาคารพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยนี้เป็นอาคารสองชั้น โดยมีการจัด แสดง ด้วยกันสองชั้นคือ ชั้นล่าง จัดแสดงหุ่นชุดต่างๆ เช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์ราชวงค์จักรี, พระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี, ชุดพระอริยสงฆ์, ชุดมุมหนึ่งของชีวิต เป็นต้น

โซนแรกคือห้องจัดแสดงพระอริยสงฆ์ ซึ่งได้แก่ พระครูภาวนารังษี, พระธรรมญาณมุนี, พระโพธิญาณเถร, ครูบาชัยวงศาพัฒนา, หลวงจีนคณาณัติจีนพรต, พระมงคลเทพมุนี, พระราชสังวราภิมณฑ์, พระสุพรหมยานเถร, พระนิโรธรังสีคัมภีร์ปัญญาจารย์, หลวงพ่อเกษม, สมเด็จพระพุฒาจารย์, พระครูวิมลคุณากร, พระราชมุนีสามีรามคุณูปมาจารย์, พระอาจารย์มั่น, ครูบาศรีวิชัย ปั้นได้เหมือนจริงมาก

ห้องแสดงต่อไปซึ่งถือเป็นไฮไลด์ของที่นี่ ห้องจัดแสดงพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์พระบรมราชจักรีวงค์ รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 8 ล่ะ ห้องจัดแสดงต่อไป เป็นห้องจัดแสดงพระบรมรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช ชนนี สมเด็จย่าแม่ฟ้าหลวงของปวงชนชาวไทยนั่นเอง ภายในห้องนี้ประกอบไปด้วยประราชประวัติและ พระกรณียกิจต่างๆ และภาพงานพระราชพิธีสุดท้าย

ห้องจัดแสดงต่อไป เป็นห้องหุ่นชุดครอบครัวไทย เป็นห้องแสดงสุดท้ายสำหรับห้องจัดแสดงชั้นล่าง ซึ่งเดินไป เดินมาจะมาออกที่ ด้านหน้าทางเข้า พวกเราก็เดินขึ้นชั้นสองกันต่อ ซึ่งห้องจัดแสดงชั้นบนแรกสุดจะเป็นการ จัดแสดงชุด 3 ครูไทยได้แก่ ครูจวงจันทร์ จันทร์คณา (บรมครูพรานบูรพ์) ครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูไพบูลย์ บุตรขัน

เดินเข้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ ห้องแสดงหุ่นชุดต่อไปคือ ชุด 3 บุคคลสำคัญของโลก ซึ่งได้แก่ มหาตมา คานธี, อับราฮัม ลินคอล์น, เซอร์ วินสตัน เชอรชิล เป็นต้น คานธีเป็นนักการเมืองที่ได้ต่อสู้เพื่ออิสรภาพของประเทศ จากการปกครองของอังกฤษทำให้โลก ต้องจดจำคานธี ผู้ซึ่งได้รับการขนานนามว่า "มหาตมา" แปลว่า ผู้มีจิตใจ สูงส่ง เป็นบิดาแห่งประชาชนชาติอินเดีย อับราฮัม ลินคอล์น ผู้ปลดปล่อยทาสของสหรัฐอเมริกา "รัฐบาลของ ประชาชนโดย "เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล เป็นวีรบุรุษ ผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ ซึ่งทั้งสามท่านมีบทบาททางด้านการเมืองในแต่ละประเทศ โดยส่วนตัวแล้ว เราเองเป็น คนที่ไม่ค่อยมีความรู้

ห้องจัดแสดงชุดต่อไปเป็นชุดวัฒนธรรมประเพณีไทย เรื่องการละเล่นของไทย ได้แก่ การเล่นรีรีข้าวสาร การเล่น แมงมุม การเล่นจ้ำจี้ การเล่นขี่ม้าช้างชนกัน และการเล่นหัวล้านชนกันห้องต่อไปที่ดูเหมือนจะได้รับความสนใจ จากเด็กๆ ก็เห็นจะเป็นชุดวรรณคดีไทย เรื่อง พระอภัยมณีของสุนทรภู่นี่ล่ะ ห้องนี้เหมือนห้องรวมดาววรรณคดี สุนทรภู่เลยล่ะสุนทรภู่กวีเอกของโลก มีชื่อเสียงในด้านสำนวนกลอนเป็นที่เลืองลือจนได้รับการยกย่องว่าเป็น บรมครูกลอนแปด และได้รับการยอมรับนับถือว่าเป็นกวีที่มีจินตนาการกว้างไกล สร้างโครงเรื่องและเนื้อหา ของ นิทานได้น่าสนใจ และชวนติดตามสุนทรภู่ได้รับประกาศเกียรติคุณให้เป็นกวีของโลก จากองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม

ห้องจัดแสดงชุดสุดท้ายที่ดูเหมือนจะเป็นโซนไฮไลด์ของชั้นบนก็คงจะเป็นชุดเลิกทาส "Slavery in Thailand" ทาสใน

ภาพถ่ายชีวิตที่เป็นอมตะ

ที่นี่ครับพิพิธภัณฑ์หุ่นี้ผึ้งไทยดูแผนที่ทางไปได้จากที่นี่ครับ

เดอะแก๊งที่ไปกับผมครับ ดูเหมือนมีแต่สาวๆทั้งนั้นเลยใช่มั้ยครับอิจฉาล่ะสิ หุๆ

อัตราค่าเข้าชมครับ สรุปคร่าวๆก็ผู้ใหญ่ 50 เด็ก 20

มีบึงอยู่ด้านหน้าด้วย ถ่ายมาซะหน่อย

เข้ามาปั๊บตกใจปุ๊บเลยครับ นึกว่าคุณยายกะคุณหลานมาเที่ยวเหมือนกันที่ไหนได้ หุ่นขี้ผึ้งครับ ตกใจตั้งกะแรกเลยเหอะๆ

เดนเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอคุณลุงท่านนึงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ครับ

ในส่วนนนี้จะเป็นรูปจำลองของพระสงฆ์ที่สำคัญและมีื่อของไทยครับมีรายละเอียดให้ดูด้วย

หลวงพ่อวัดปากน้ำครับ หลายท่านคงรู้จัก รายละเอียดจะมีอยู่ในป้ายนี้ครับ

ท่านนี้ก็คือหลวงปู่โตนั่นเองครับ พระอริยสงฆ์สำคัญท่อยู่ในประวัติศาตร์หลายหน้าของประเทศไทย

แต่ละรูปก็จะมีการตกแต่งฉากอย่างสวยงามครับ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นหุ่นขี้ผึ้งจริงๆ

พ้นจากส่วนที่แล้วออกมาตกใจอีกแระ - -" นี่ก็หุ่นครับ

รู้มั้ยครับอันไหนหุ่นอันไหนคนจริงๆ ฮิๆ

ห้องนี้ผมว่าอลังการที่สุดแล้วครับ เป้นรูปจำลองของพระมหากษัตริ์ยไทยตั้งแต่ รัชกาลที 1 จนถึงรัชกาลที่ 8 ครับ

สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชครับ ปฐมกษัตริ์ยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ครับ ดูท่านน่าเกรงขามเสียจริงๆ

ห้องนี้ประตูสวยเชียวครับต้องเป็นห้องสำคัญแน่ๆ

และก็เป็นห้องสำคัญจริงๆครับ เป็นห้องที่แสดงรูปจำลองของสมเด็จย่านั่นเอง

ดูแล้วก็น้ำตาจะไหลครับ นึกถึงคุณความดีของท่านสมยที่ท่านยังอยู่ มองรูปจำลองของท่านแล้วเหมือนท่านกลับมามีชีวิตอยู่ตรงหน้าเลยครับ T-T

ต่อมาที่ชั้นสอง จะเป็นรูปของบุคคลในอดีตครับ

สุทราภรณ์ครับพี่น้อง ^^ ชอบจริงๆ

มหาตมะคานทีครับ ผู้ยึดหลักอหิงสาที่โด่งดังของโลก

ถ้าพูดถึงคนสำคัญของโลกจะขาดลินคอร์นไปก็กระไรอยู่เนอะ ^^ ปธณ. คนแรกของอเมริกาไงครับ

ตรงนี้เป็นการละเล่นของเด็กไทยแล้ว..

ฮิๆอันนี้เป็นการละเล่นแบบผู้ใหญ่ไทยครับ หัวล้านชนกัน 555+

พระอภัยมณีครับ คงต้องเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างแน่ๆ

ครูสุนทรภู่ครับ นักแต่งวรรณคดีที่สำคัญของไทยครับมีชีวิตอยู่ในสมัยรัชกาลที่ 2 ถึงรัชกาลที่ 4 ครับ

สดท้ายห้องนี้เป็นการซื้อขายทาสที่เคยมีในอดีตก่อนจะมีการประกาศเลิกทาสครับ เห็นแล้วสะเทือนใจน่าดูครับ

ถ้าในสมัยรัชกาลที่ 5 ท่านไม่ทรงเลิกทาสวันนีเราก็คงจะเห็นภาพแบบนี้เกิดขึ้นอยู่ก็ได้นะครับ และนี่เป็นภาพสุดท้ายของการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยแ่ห่งนี้ครับ ลองไปสัมผัสกันดูนะครับ แล้วจะรู้ว่าชีวิตที่อยู่เหนือกาลเวลานั้นหมายความว่ายังไงครับ ^^

หุ่นขี้ผึ้งหน้าเหมือน

หุ่นขี้ผึ้งดาราไทย จาก มาดามทุซโซ่ : จา พนม

หุ่นขี้ผึ้งดาราไทย จาก มาดามทุซโซ่ : เคน ทีรเดช

วันอังคารที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2556

ภาพประกอบหุ่นขี้ผึ้งไทย

ภาพประกอบ

บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

( Thai Human Imagery Museum )

พิพิธภัณฑ์ หุ่นขี้ผึ้งไทย เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของผู้สร้างสรรค์

กลุ่มหนึ่ง นำโดยอาจารย์ดวงแก้ว พิทยากรศิลป์ ผู้ที่สนใจในการ สร้างหุ่นขี้ผึ้ง และได้

ศึกษาค้นคว้า มาเป็นเวลานานถึงกว่า 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ สามารถสร้างหุ่นขี้ผึ้ง

ยุคใหม่จาก ไฟเบอร์กลาสที่มีความคงทนสูง ประณีต งดงามเหมือนคนจริงที่สุด จนคณะ

ผู้ร่วมงานเห็นสมควรที่จะสนับสนุนให้ก้าวหน้าต่อไป เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ

ต่อไป จึงเริ่มโครงการ ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยขึ้น ในปี พ.ศ. 2525 สำหรับเป็น

สถานที่สร้างและ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส เพื่อการอนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปะ

วัฒนธรรมประเพณีไทย อันจะเป็นประโยชน์ยิ่งในการศึกษาค้นคว้าของเยาวชน

วัตถุประสงค์ :-

1. เพื่ออนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่ ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีไทย

2. เพื่อส่งเสริมการศึกษา ด้านประติมากรรม และศิลปะแขนงต่าง ๆ

3. เพื่อเป็นสถานที่ทัศนศึกษาสำหรับนักเรียน นักศึกษา และผู้สนใจทั้งชาวไทยและชาว

ต่างประเทศ

นอก จากนี้ คณะผู้ร่วมงานกำลังดำเนินการสร้างหุ่นชุดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของพิพิธภัณฑ์ฯ เพื่อส่งเสริมการศึกษาของเยาวชน และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม อันเป็นมรดกของชาติเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วรรณคดี ประเพณี และบุคคลสำคัญทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ

เมื่อวัน ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ.2532 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จเป็นองค์ประธาน ในพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ซึ่งนับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ หุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสแห่งแรกของประเทศไทย อันเป็นความภาคภูมิใจ ของชาวไทยและความ ชื่นชมของชาวโลก

อาคารพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยเป็นอาคาร 2 ชั้น โดยจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งดังนี้

ชั้น ล่าง จัดแสดงหุ่นชุดต่างๆเช่น ชุดพระบรมรูปอดีตพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี

พระบรมรูปสมเด็จพระศรีนคริทราบรมราชชนนี ชุดพระอริยสงฆ์ ชุดมุมหนึ่งของชีวิต

เป็นต้น

โดย เฉพาะชุด “พระอริยสงฆ์” นั้น จัดสร้างจากประสบการณ์ชีวิตของประติมากร หล่อ

หลอมด้วยแรงศรัทธาที่มีต่อพระอริยสงฆ์ ในฐานะที่เป็นปูชนียบุคคล ผู้ที่เป็นที่เคารพ

นับถือ ของเหล่าพุทธศาสนิกชน คุณความดีของท่านในการสืบทอดศาสนา ชี้นำทางสู่

แสงสว่าง และ ความสงบสุขให้แก่มวลมนุษย์ เมื่อคุณได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่ มุม “พระอริย

สงฆ์" ภายใน พิพิธภัณฑ์หุ้นขี้ผึ้งไทย คุณอาจรู้สึกเหมือนถูกตรึงไว้ด้วยความศรัทธาต่อ

"ประติมากรรมแห่งชีวิต" ที่น่าเลื่อมใสของพระอริยสงฆ์ ที่มิเพียงแต่ได้รับการจำลองรูป

ลักษณ์อย่างมีชีวิตชีวาเท่านั้น แต่ยังได้รับการ ประดิษฐานอยู่ท่ามกลางองค์ประกอบ

และ บรรยากาศที่แลดูขลังดั่งเป็นจริง

คุณยาย คุณแม่ และหลาน

มุมต่อไปมีคุณลุงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่

ทางพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทยซื้อหนังสือพิมพ์ใหม่ให้คุณลุงทุกวันค่ะ

หลวงปู่ทวด

ซึ่งได้มีการสืบค้นอย่างดี เช่นของใช้ของท่านน่าจะเป็นอย่างไร

ที่อยู่จะมีลักษณะเช่นไร ผิวน่าจะสีอะไร ก่อนที่จะนำมาจัดทำหุ่น

และองค์ประกอบต่าง ๆ

มุมต่อไปเป็นคุณลุงนั่งเล่นหมากรุกกันอยู่

ถ้าไปดูใกล้ ๆแล้วสังเกตสีหน้า จะบอกได้ว่าใครกำลังได้เปรียบ

ใครกำลังเสียเปรียบ และ คุณลุงที่ยืนอยู่เชียร์คนไหนได้เลย

แต่ป้าอีกคนที่ยืนทำท่าสอนนั่น ท่าทางจะเล่นไม่เป็น

มุมต่อไปเป็นครูเพลง 3 ท่าน

ครูเอื้อ สุนทรสนาน ครูไพบูลย์ บุตรขัน

และครูจวงจันทน์ จันทร์คณา หรือ “พรานบูรพ์”

มุมนี้ก็ท่านลินคอร์นกำลังนั่งคิดแก้ปัญหาให้สหรัฐอเมริกาอยู่

มาชมบรรยากาศไทย ๆ สบาย ๆ กันต่อค่ะ

ดูหน้าตาพ่อหนูแม่หนูในภาพ แล้วอยากจะหอมแก้มพวกแกมั้ยคะ

ดูมีความสุขกันซะจริง ดูเจ้าตัวเล็กหลังสุดที่เกาะแถวงูกินหาง

ต่อไปก็เป็นมหากวีไทย “สุนทรภู่” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นกวีเอกของ

โลก

พร้อมกับผลงานจากจินตนาการของท่าน “พระอภัยมณี”

รูปนางเงือก

ห้องนี้ชมแล้วรู้สึกสะเทือนใจไปกับชีวิตของทาส

แล้วก็ชิงชังกับพ่อแม่ที่ติดการพนันจนต้องขายลูก

ดูหน้าแม่หนูในรูปที่พ่อแม่กำลังพาไปขายแล้ว เศร้าเหลือเกินค่ะ

แต่ในที่สุดเมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงตราพระราชบัญญัติลักษณะเลิกทาส

ร.ศ. 124 (พ.ศ. 2448) ชีวิตของคนไทยที่มีอิสรภาพ

ก็สะท้อนออกมาให้เห็นได้จากสีหน้าของครอบครัวในภาพ

พระอริยสงฆ์ชื่อดังของไทย และนี่ก็คือหลวงปู่ชา สุภัทโท จ.อุบลราชธานี

ต่อมาจะเป็น หุ่นขี้ผึ้ง ของคนดังจากต่างประเทศ ในแวดวงสังคม การเมืองเริ่มที่มหาตมะ คานธี แห่งประเทศอินเดีย

วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ผู้นำอังกฤษสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อต่อสู้การรุกรานของเยอรมัน

ที่แสดงถึงวิถีชีวิตไทยในสมัยก่อนอีกภาพหนึ่ง
ถ้าใครสนใจจะไป พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย บ้างก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ นัก
ค่าเข้าชมสำหรับคนไทยก็คนละ 50 บาทเท่านั้น

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม บนเนื้อที่ 12 ไร่ อยู่ริมถนนปิ่นเกล้า - นครชัยศรี ( ถนนหมายเลข 338 ) ที่มุ่งหน้าสู่จังหวัดนครปฐม ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 31 จะถึง พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

เรื่องแนะนำ